พรมเช็ดเท้าฆ่าเชื้อ ไอเท็มสำคัญในช่วงหน้าฝนที่ทุกๆ บ้าน หรือแม้แต่อาคารสำนักงานไม่ควรมองข้าม แม้ว่าฤดูฝนจะช่วยให้อากาศเย็น และชุ่มฉ่ำขึ้นก็ตาม แต่ปัญหาหลักของหน้าฝนที่หลีกหนีไม่ได้เลย คือความเฉอะแฉะตลอดทั้งวัน มิหนำซ้ำยังนำพาเชื้อโรคที่ติดรองเท้ามาให้เจ้าของบ้านเป็นกังวลใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุค New normal ด้วยแล้ว ที่ทุกบ้านต่างก็ใส่ใจเรื่องความสะอาด HomeGuru มีวิธีง่ายๆ ที่ช่วยขจัดปัญหาเหล่านี้ ด้วยการเลือกพรมดักฝุ่น หรือ พรมฆ่าเชื้อ ที่สามารถซับน้ำ ขจัดฝุ่น สิ่งสกปรกได้จริง แถมไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายมาฝากทุกๆ บ้านครับ
วิธีเลือกพรมให้เหมาะสมกับการใช้งาน
พรมดักฝุ่น กันลื่น ปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้ของหลายๆ บ้าน เพราะนอกจากคุณสมบัติในการช่วยขจัดฝุ่นจากรองเท้าได้แล้ว พรมดักฝุ่น บางชนิดยังมีคุณสมบัติในการซับน้ำจากรองเท้า และป้องกันการลื่นเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน โดยส่วนใหญ่แล้วพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับจัดวาง พรมดักฝุ่น ในช่วงหน้าฝน คือ ก่อนเข้าประตู และหลังเดินเข้าประตู เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขจัดสิ่งสกปรกได้ดียิ่งขึ้น แถมยังลดแรงทำความสะอาดของคุณแม่บ้านได้อีกด้วยครับ
นอกเหนือจากการอยู่อาศัยภายในบ้านแล้ว สำหรับอาคารสำนักงานหากมีการจัดวาง พรมเช็ดเท้าฆ่าเชื้อ หรือ พรมดักฝุ่น ไว้บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าแล้ว การจัดเตรียมถุงพลาสติกสำหรับใส่ร่ม ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีในการป้องกันไม่ให้น้ำไหลหยดระหว่างทางเดิน เกิดความเฉอะแฉะ หนึ่งในต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วยครับ
- อ่านวิธีกำจัดฝุ่นเพิ่มเติมได้ที่ กําจัดฝุ่นในห้องนอนให้ถูกวิธี ไร้ไรฝุ่นไม่ฟุ้งทั่วห้อง
- อ่านวิธีกำจัดฝุ่นเพิ่มเติมได้ที่ เปลี่ยนห้องธรรมดา ให้กลายเป็นห้องปลอดฝุ่น
![]() |
![]() |
![]() |
---|
พรมม้วน หรือ พรมดักฝุ่น แบบม้วน ส่วนใหญ่จะใช้วางบริเวณหน้าทางเข้าบ้าน หรืออาคารสำนักงาน เพื่อดักจับฝุ่นและลดความสกปรกที่จะเข้ามาในตัวบ้าน ตัววัสดุผลิตจากใยสังเคราะห์โพลีเอสเตอร์ ที่มีความเหนียวแน่น ทนทาน ยืดหยุ่นสูง ทำให้ทนต่อการใช้งาน หากเป็นวัสดุที่ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์จะช่วยให้สบายเท้าระหว่างการใช้งาน แถมยังทำความสะอาดง่ายเพียงแค่ดูดฝุ่น หรือซักทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดครับ
พรมผ้าขนหนู เป็นพรมที่มีใช้กันอย่างแพร่หลายแทบทุกห้องภายบ้าน รวมถึงบริเวณหน้าบ้าน เพราะสามารถซึมซับน้ำบริเวณที่เปียกให้แห้งลงได้ดี มีคงทนต่อการใช้งาน แถมยังทำความสะอาดง่ายเพียงซักทำความสะอาด ส่วนใหญ่เส้นใยของผ้าขนหนูจะผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น Cotton หรือ เส้นใยประดิษฐ์ เช่น เส้นใยสังเคราะห์ Polyester ซึ่งการเลือกใช้นั้นให้เลือกพรมผ้าขนหนูที่ให้ผิวสัมผัสที่นุ่มนิ่ม ระหว่างการใช้งาน และหลังการซัก ไม่เกิดความกระด้าง แต่ข้อเสียของพรมผ้าขนหนู คือ พื้นหลังของพรม ที่เป็นผ้าทั้งผืน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้ระหว่างการใช้งาน
พรมห้องน้ำ ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานภายในห้องน้ำโดยเฉพาะ ซึมซับน้ำได้ดี พื้นหลังของพรม มีกันลื่นด้านหลังด้วยกาว TPR เพื่อช่วยยึดเกาะพื้นป้องกันการลื่นล้มของทุกคนในครอบครัว แต่จะไม่ดักฝุ่นภายในห้องน้ำเท่ากับ พรมดักฝุ่น จึงต้องหมั่นซักทำความสะอาด ส่วนใหญ่เส้นใยของพรมจะผลิตจากเส้นใยไมโครไฟเบอร์ และผ่านการถักทอตัดแต่งพรมแบบขนตัด (Cut Pile) เพื่อช่วยให้ผิวสัมผัสนุ่มระหว่างการใช้งาน รูปแบบของพรมจะมีส่วนเว้าโค้ง เพื่อให้เข้ามุมกับโถสุขภัณฑ์ จึงทำให้ไม่รู้สึกเกะกะเมื่อวางใช้งานภายในห้องน้ำครับ
แผ่นกันลื่น เป็นไอเท็มเสริม และนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายของหลายๆ บ้าน เพราะด้วยคุณสมบัติเด่นของแผ่นกันลื่นที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้ดีเมื่อยืนอาบน้ำ หรือใช้กับห้องน้ำที่มีพื้นผิวแข็ง โดยการเลือกใช้แผ่นกันลื่นจะเลือกใช้ตามวัสดุ เช่น ซิลิโคน เป็นวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย ช่วยป้องกันเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรีย หรือเลือกตามขนาด และรูระบายน้ำ เพื่อช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราระหว่างการใช้งานครับ
- อ่านความรู้เรื่องพรมปูพื้นเพิ่มเติมได้ที่ เลือกพรม ปูพื้นห้องอย่างไรให้บ้านโดดเด่น
- อ่านความรู้เรื่องของแต่งบ้านเพิ่มเติมได้ที่ ผ้าม่าน หรือมู่ลี่แบบไหนดี
พรมเช็ดเท้าใยมะพร้าว เป็นพรมที่มีความทนทาน ไม่ต้องเป็นกังวลเมื่อวางใช้งานตากแดด และตากฝน เป็นพรมที่เหมาะสำหรับใช้งานภายนอกบ้าน สกปรกยาก กันลื่นได้ดี และเป็น พรมดักฝุ่น ที่สามารถใช้เช็ดทำความสะอาดรองเท้าได้เมื่อเข้าหน้าฝนครับ การทำความสะอาดก็ไม่ยุ่งยากเพียงใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดสิ่งสกปรกออก หรือใช้วีธีการสะบัดฝุ่นแทนก็จะช่วยให้พรมสะอาดขึ้น
![]() |
![]() |
![]() |
---|
ทำไม พื้นหลังของพรม ปูพื้นจึงสำคัญ?
นอกเหนือกจากความสวยงามของพรมแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กัน คือ พื้นหลังของพรม ซึ่งพื้นหลังของพรมมีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งาน ทั้งรูปแบบ PVC, ลาเท็กซ์, SBR และยางไนไตร อย่าง พื้นหลังของพรม ที่ทำจากยางไนไตร จะมีคุณสมบัติเกาะติดพื้นได้ดีกว่า จึงช่วยกันลื่นไถลได้ โดยไม่ต้องยึดติดด้วยกาวหรือเทป แถมยังมีความยืดหยุ่น คืนตัวได้ดี สามารถวางเรียบบนพื้นได้ ไม่ฉีกขาดง่าย และที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นฉุน และไม่ทิ้งคราบบนพื้นให้คุณแม่บ้านต้องคอยทำความสะอาด
- อ่านนวัตกรรมเรื่องบ้านเพิ่มเติมได้ที่ Healthy Home บ้านอยู่สบาย ตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่
- อ่านนวัตกรรมเรื่องบ้านเพิ่มเติมได้ที่ สินค้าแต่งบ้านสไตล์ ECO Product ของสายกรีนตัวแม่
และด้วยคุณสมบัติ พื้นหลังของพรม ที่ผลิตจากยางไนไตร ปัจจุบันพรมชนิดนี้จึงเป็นนิยมใช้ทั้ง พรมดักฝุ่น และ พรมเช็ดเท้าฆ่าเชื้อ ซึ่งมีฟังก์ชั่นการใช้งานแบบ 2 in 1 คือ สามารถฆ่าเชื้อโรคจากพื้นรองเท้า และมีพื้นที่ซับแห้ง ยางกันลื่น และถาดรองแผ่นซับน้ำยาฆ่าเชื้อ ที่จะคอยทำหน้าที่ขจัดคราบสกปรกบนรองเท้า
การเลือก พรมเช็ดเท้าฆ่าเชื้อ เป็นเคล็ดลับหนึ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้อยู่อาศัย หรือแขกผู้มาเยือนโดยเฉพาะกับผู้สูงวัย และเด็กๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสะดุด หรือลื่นล้มได้ดีครับ ไม่เพียงแต่ที่พักอาศัยเท่านั้น พรมชนิดนี้ยังเป็นทางเลือกของผู้ประกอบการ โรงเรียน โรงแรม ท่าอากาศยาน โรงพยาบาล ในปัจจุบันที่เลือกใช้ พรมเช็ดเท้าฆ่าเชื้อ หรือกระบะน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า หรือผู้มาใช้บริการ บริเวณจุดคัดกรองครับ
การเลือก พรมเช็ดเท้าฆ่าเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณภายใน หรือภายนอกบ้าน เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งบ้านนะครับ เพราะด้วยฟังก์ชัน และคุณสมบัติของพรมแต่ละประเภทนั้น มีความเหมาะสมกับพื้นที่ในบ้านที่แตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญที่ HomeGuru อยากให้คำนึงถึงเป็นปัจจัยแรกๆ ในการเลือกซื้อพรมมากที่สุดคือ ความปลอดภัยระหว่างการใช้งาน โดยสังเกตจากวัสดุในการผลิต เช่น พรมดักฝุ่น พรมกันลื่น พรมฆ่าเชื้อ เพื่อลดความกังวลเรื่องสุขอนามัยของทุกคนในครอบครัวนะครับ